แกรปโตไลต์ (Graptolite) เป็นสัตว์ทะเลขนาดเล็กที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม (Colony) ในกลุ่มเฮมิคอร์ดาตา (Hemichordata) โดยชื่อไฟลัมได้จาก hemi = ครึ่ง , chordate = สัน ซึ่งหมายถึง กลุ่มของสัตว์กึ่งสัตว์มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ในกลุ่มที่ตัวอ่อนพัฒนาส่วนทวารหนักก่อน (Deuterostoma) เหมือนกับกลุ่มดาวทะเล เม่นทะเล (Echinoderm)กับกลุ่มสัตว์มีกระดูกสันหลัง (Chordata) ดำรงชีพโดยการกรองกินแพลงก์ตอนในน้ำทะเล ด้วยขนเล็ก(Cilia) โบดพัดให้อาหารเข้าสู่ปาก ลำตัวของแกรปโตไลท์แต่ละตัว อยู่ในปลอกท่อสั้นๆ (theca) และเชื่อมติดกับแกน (nema) ทำให้โคโลนีต่อกันเป็นแกนยาว (stipe) มีทุ่นช่วยในการลอยตัวใกล้ผิวน้ำ
ชื่อแกรปโตไลต์ได้มาจาก “graptos” หมายถึง เขียน และ “lithos” หมายถึง หิน เนื่องจากพบซากดึกดำบรรพ์นี้ในหินดินดานสีดำ (ฺShale) เป็นรอยพิมพ์บางๆ เหมือนรอยดินสอขีดบนแผ่นหิน เนื่องมาจากสภาพการตายของแกรปโตไลต์ ที่ตกลงมาทับถมที่ก้นทะเล
แกรปโตไลต์เริ่มมีตั้งแต่ยุคแคมเบรียน (Cambrian preriod) แต่แพร่กระจายมากที่สุดในยุคไซลูเรียน (Silurian period) จากนั้นเริ่มลดปริมาณลง จนสูญพันธุ์หมดในยุคเพอร์เมียน (Permian period) นอกจากนี้ แต่ละยุคจะมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันไปในสายพันธุ์ จึงสามารถใช้เป็นซากดึกดำบรรพ์ดัชนี (Index fossil ) ได้ดี และยังเป็นตัวระบุชั้นหินของมหายุคพาลีโอโซอิก (Paleozoic Era) เมื่อ 512-251 ล้านปีก่อน ได้เป็นอย่างดี
การสำรวจ
ซากดึกดำบรรพ์ของแกรปโตไลต์พบได้ในปริมาณมาก ในชั้นหินดินดานยุคไซลูเรียน ในท้องถิ่นอำเภอละงู จังหวัดสตูล มีความหลากหลายของรูปร่างได้แก่ เป็นเส้นสั้นๆ-เส้นยาว เส้นตรง-เส้นโค้ง เส้นผอมยาว-ป้อมๆ สั้น แต่ยังไม่พบแบบแตกเป็น 2 แขนง, เป็นเกลียววงกลมหรือแบบตาข่าย ตามแบบในเอกสารอ้างอิง แต่น่าเสียดายว่าซากดึกดำบรรพ์ดังกล่าว อยู่ในบ่อดินที่รถบรรทุกขุดไปถมถนนและถมที่
การจัดกิจกรรมของเราจะเน้นการสำรวจค้นหา และการใช้กระดาษทับและแรเงาบางๆ กลับมาประกอบการเขียนรายงานสำรวจ นักเรียนส่วนใหญ่ชอบ นอกจากนี้ ยังพบแร่ไพไรต์ สีเหลืองสะท้อนแวววาวคล้ายผงทองในชั้นหิน บ่งบอกถึงสภาพการทับถมและการหมักหมมของอินทรีย์วัตถุในสภาพไม่มีออกซิเจน
การจัดกิจกรรมของเราจะเน้นการสำรวจค้นหา และการใช้กระดาษทับและแรเงาบางๆ กลับมาประกอบการเขียนรายงานสำรวจ นักเรียนส่วนใหญ่ชอบ นอกจากนี้ ยังพบแร่ไพไรต์ สีเหลืองสะท้อนแวววาวคล้ายผงทองในชั้นหิน บ่งบอกถึงสภาพการทับถมและการหมักหมมของอินทรีย์วัตถุในสภาพไม่มีออกซิเจน
อ้งอิง https://bit.ly/2R1CBg1
No comments:
Post a Comment